แลรี่ย์ ต้องการที่จะต่อสู้อย่างสมบูรณ์แบบกับ IBM ฉะนั้นเขาจำเป็นที่จะต้องได้ Sun เพื่อมาร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ แต่ในส่วนทางคณะกรรมการของสหภาพยุโรป ก็ยังยืนกรานในทางของตนที่จะให้ Oracle ถอดถอนการซื้อ Sun
...มันเป็นส่วนหนึ่งเพราะว่าสหภาพยุโรป ไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริงและยังมีความทะนงตน
...อีกส่วนนึง เป็นเพราะ แลรี่ย์ ได้ทุ่มไปมากในครั้งนี้ ทั้งเงิน และ ทั้งเวลา
...และยังเป็นเพราะ แลรี่ย์ต้องการที่จะครบครอง Sun ก่อนที่ Sun จะเลิกจ้างพนักงานหลายพันคน เนื่องจากความกดดันของคณะกรรมการของสหภาพยุโรป
แต่ข้อเท็จจริง มาจากคำพูดของแลรี่ย์เอง นั่นคือ เขายอมจะแลกชีวิต เพื่อได้ต่อสู้กับ IBM อย่างถึงที่สุด และการที่จะทำเช่นนั้นได้ เขาจำเป็นต้องมี Sun และคณะกรรมการของสหภาพยุโรปที่เป็นไปตามทางที่เขาต้องการ (ผ่าน EU)
แน่ใจได้เลยว่า Oracle ได้อ้างต่อสาธารณชนว่า เจ้าหน้าที่คณะกรรมการของสหภาพยุโรป ได้แสดงให้เห็นว่า "มีการเข้าใจผิดทั้งทางด้าน การแข่งขันทางด้านฐานข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลโอเพ่นซอร์ส" ซึ่งความเข้าใจผิดเหล่านี้ ทำให้แลรี่ย์ยิ่งขุ่นเคืองไปกันใหญ่
และก็เป็นที่แน่นอนเหมือนกันว่า Sun ก็ตกอยู่ในสภาวะขาดแคลน ไม่เพียงแต่ บุคลากรเท่านั้น รวมไปถึง รายได้ที่สูญเสียไป 100 ล้านเหรียญต่อเดือน ซึ่งครั้งนี้ เป็นการท้าทายทางเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรวมตัวของ Sun และ Oracle ควรได้ได้ผลที่ดีขึ้น เพื่อมาต่อกรกับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง HP IBM และ Dell แต่ในความจริงที่ว่า แลรี่ย์ ไม่เพียงเป็นผู้ที่มี ผู้แข่งขันมากที่สุดโลกแล้ว แต่ยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอีกด้วย ดังนั้นเขาน่าจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้
สี่เรื่องสำคัญที่แลรี่ย์ได้กล่าวไว้...
1) Sun's broad technologies
2) MySQL, a fine intermediate-sized database that the EC sophisticates are absurdly conflating with giant commercial systems;
3) IBM and the one-time reverence Ellison felt for it, which have morphed in his view into the Great White Whale he must conquer; and
4) Ellison's views on competition, and the role that most animating of forces has played in his life.
...เราคงต้องติดตามต่อไปว่า แลรีย์ จะสามารถนำ Oracle ผ่านคณะกรรมการของสหภาพยุโรปได้หรือไม่
อ้างอิง
No comments:
Post a Comment