go to http://oracle.in.th

Tuesday, December 7, 2010

โอกาสของน้องๆนักศึกษา มาอีกแล้ว อบรมฟรี Oracle JDeveloper !!

โอกาสของน้องๆนักศึกษา มาอีกแล้ว
คราวนี้ OUGTH ของเรา เปิดอบรมฟรี Oracle JDeveloper !!


...แต่รอบนี้มีกติกานิดหน่อย ผู้ที่จะมาอบรมได้นั้น จะต้องเป็นนักศึกษาและ ต้องเป็นสมาชิกของOUGTH Facebook Page, OUGTH Facebook group, OUGTH google buzz, Google friend connect ใน blog OUGTH ของเรา, หรือ OUGTH twitter เท่านั้น



เปิดรับสมัครผู้สนใจ ตั้งแต่วันนี้ - 10 ธันวาคม 2553 เวลา 12:00 น.
(ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดรับสมัครก่อนเวลาที่กำหนด หากที่นั่งเต็ม)

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถ Email แจ้งความจำนงที่จะเข้าร่วมอบรม พร้อมทั้งบอกรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. ชื่อ-นามสกุล
  2. เบอร์ติดต่อกลับ
  3. สถานที่ศึกษา
  4. แนบสำเนาบัตรนักศึกษา
  5. เหตุผลที่อยากมาเข้าร่วมอบรมนี้
  6. Capture รูปที่เป็นสมาชิกกับเรา เช่น
Facebook Fan Page


แล้วส่งมาที่ oracle.in.th@gmail.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-634-1711 หรือ oracle.in.th@gmail.com

รายละเอียดของการอบรม
วันที่ทำการอบรม: วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 11 และ 12 ธันวาคม 2553
เวลา: 09:00 - 16:30 น.
สถานที่: อาคาร ปาโซ่ ทาวเวอร์ ชั้น 21 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10500
(ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ประมาณ 500 เมตร)


ดู โอกาสของน้องๆนักศึกษา มาอีกแล้ว อบรมฟรี Oracle JDeveloper !! ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า


...โอกาสดี มันไม่ได้มีง่ายๆ รีบคว้าไว้ ก่อนที่จะสายไป
ข้อเขียนนี้ช่วยฉัน:  

Wednesday, December 1, 2010

National Character Set แบบ AL16UTF16 กับ UTF8 ต่างกันอย่างไร?

ห่างหายไปนานกับการเขียนบทความลงบล็อค oracle ของเรา ขอต้อนรับต้นเดือนสุดท้ายของปี 2010 นี้ด้วยทริก เล็กๆน้อยๆ นะครับ

วันนี้มีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นประโยชน์ซึ่งเกี่ยวกับการสร้าง Database โดยใช้ DBCA หรือ Database Configuration Assistant มาให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ

...ผมเชื่อว่า หลายๆท่านที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้ ต้องเคยได้ลองติดตั้ง Oracle Database หรือ เคยสร้าง Database มากันบ้างแล้วล่ะ ซึ่งขั้นตอนในการสร้าง Database นั้นมันก็ไม่ได้ยากมากมาย เพียงแค่ตั้งค่าให้ถูกต้องเท่านั้นเอง ซึ่งผมนั้นก็ได้ลองติดตั้งด้วยตัวผมเองแล้วเหมือนกัน แต่มีขั้นตอนนึงที่ทำให้ผมชะงักขึ้นมาว่า ...เอ๊ะ จะเลือกอันไหนดีล่ะ ? นั่นคือ ตอนที่ให้ตั้งค่า Database Character set โดยมี National Character Set แบบ AL16UTF16 กับ UTF8 ให้เลือก (ดูตามรูปได้เลยนะครับ)


เอาเป็นว่า แทนที่จะมานั่งเดาเอา ผมก็ search หาเอาซะเลย แล้วดูว่า National Character Set แบบ AL16UTF16 กับ UTF8 มันมีข้อแตกต่างกันอย่างไร?

AL16UTF16
  1. ถ้าข้อมูลเป็นภาษาเอเชีย จะประหยัดพื้นที่กว่า UTF8 ซึ่งจะดีในแง่ของพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ และ I/O แต่ถ้าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นภาษาทางยุโรปใช้ UTF8 ดีกว่าเพราะประหยัดพื้นที่กว่า
  2. Oracle มอง AL16UTF16 เป็น fixed-width characters ดังนั้นจะ process เร็วกว่า
  3. ความกว้างสูงสุดของ NCHAR และ NVARCHAR คือ 1000 และ 2000 ตัวอักษร ซึ่งการันตี เพราะเป็น fixed-width
...มาดูฝั่ง UTF8 กันบ้าง

UTF8
  1. ถ้าข้อมูลเป็นภาษาทางยุโรป โดยปกติจะประหยัดพื้นที่กว่า AL16UTF16 (เนื่องจากภาษาทางยุโรปอยู่ในลำดับต้นๆของ Unicode ซึ่งสามารถแทนได้ด้วยข้อมูลเพียง Byte เดียว) และให้ประสิทธิภาพดีกว่าในการ Process
  2. ความยาวสูงสุดของ NCHAR และ NVARCHAR คือ 2000 และ 4000 ซึ่งดูเหมือนจะมากกว่า AL16UTF16 แต่ไม่การันตี เนื่องจาก UTF8 เป็น variable width ถ้าเป็น Character ที่ใช้ Byte เดียวก็จะได้ถึง 4000 bytes แต่ถ้าเป็น Character ที่ใช้ 3 Bytes ก็จะมีได้สูงสุดแค่ 4000/3 ตัวอักษร
...นั่นก็คือข้อแตกต่างของแต่ละตัว ดังนั้นก่อนที่ท่านผู้อ่านทุกท่านจะ set ค่าในการสร้าง database ลองดูรายละเอียดซักนิดนะครับ อย่าเพิ่งกด Next ๆๆ อย่างเดียวนะครับ ;)

อ้างอิง
ข้อเขียนนี้ช่วยฉัน:  

Monday, November 1, 2010

อบรม Oracle Business Intelligence Standard Edition (Oracle BI): Discoverer ฟรี! สำหรับ นศ.



ปิดรับสมัครแล้วครับ 
ขอบคุณน้องๆ นักศึกษาที่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก


นักศึกษาเตรียมพร้อม! มาพบกับ อบรมฟรีๆ กับ Oracle user Group in Thailand กันดีกว่า

อบรม Oracle Business Intelligence Standard Edition: Discoverer



Oracle Business Intelligence Standard Edition: Discoverer เป็นเครื่องมือที่ผู้ใช้้ทางธุรกิจสามารถสืบค้นข้อมูล จัดทำรายงาน วิเคราะห์ข้อมูล และเผยแพร่ข้อมูลในฐานข้อมูลทางเว็บ ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลได้ทันที พร้อมทั้งยังสามารถตัดสินใจดำเนินการทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายอีกด้วย

เปิดรับสมัคร ผู้สนใจ ตั้งแต่วันนี้ - 4 พฤศจิกายน 2553 (ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดรับสมัครก่อนเวลาที่กำหนด หากที่นั่งเต็ม)

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถ Email แจ้งความจำนงที่จะเข้าร่วมอบรม พร้อมทั้งบอก ชื่อ-นามสกุล, ชื่อเล่น, เบอร์ติดต่อกลับ, สถานที่ศึกษา, แนบสำเนาบัตรนักศึกษา และเหตุผลที่อยากมาเข้าร่วมอบรมนี้ มาที่ oracle.in.th@gmail.com

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-634-1711 หรือ oracle.in.th@gmail.com

รายละเอียดของการอบรม
วันที่ทำการอบรม: วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 6 และ 7 พฤศจิกายน 2553
เวลา: 09:00 - 16:30 น.
สถานที่: อาคาร ปาโซ่ ทาวเวอร์ ชั้น 21 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10500
(ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ประมาณ 500 เมตร)


ดู อบรม Oracle Business Intelligence Standard Edition: Discoverer ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
ข้อเขียนนี้ช่วยฉัน:  

Tuesday, September 28, 2010

ภาพบรรยากาศในงาน OUGTH Meetup ครั้งที่ 2

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆที่ติดตาม Blog ของเราทุกท่าน
ผ่านไปแล้วนะคะ กับงาน OUGTH Meet up ครั้งที่ 2 เมื่อ วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2553 ณ จัตุรัสจามจุรี มีผู้เข้าร่วมสัมมนามากันเกือบครบทุกท่านเลยทีเดียว บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน พร้อมทั้งได้สาระกลับบ้านกันไปเต็มๆ รวมทั้ง ได้ของแจกกันไปถ้วนหน้า
ถือว่าได้มางานนี้ล่ะก็...คุ้มไม่้รู้จะพูดอย่างไรแล้ว!! XD

วันนี้เลยมีภาพบรรยากาศในงานมาให้ชมกันค่ะ
ติดตามแบบเต็มๆได้ที่ Facebook Page ของเรานะคะ คลิกที่รูปเพื่อไปดูเต็มๆ เลยค่ะ


สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณผู้ร่วมสัมมนาที่น่ารักทุกท่าน ท่านวิทยากรทั้ง 9 ท่านที่มาให้ทั้งสาระ ความรู้ และเทคนิคดีๆ(ที่แฝงไว้กับความฮา) และขาดไม่ได้เลย ผู้สนับสนุนของเรา ECS The Value Systems Co., Ltd. และ Oracle Thailand ค่ะ

แล้วพบกับ Event ดีๆ กับ Oracle User Group in Thailand แบบนี้ได้เสมอนะคะ

ปล. แล้ว Meetup ครั้งที่ 3 เพื่อนๆอยากจะให้จัดเป็นแบบไหนบ้างคะ? มีใครอยากเสนออะไรไหม เชิญคอมเม้นไ้ด้เลยน้าา~
ข้อเขียนนี้ช่วยฉัน:  

Monday, September 27, 2010

อบรม Oracle Performance Tuning สำหรับนักศึกษาเท่านั้น

มาอีกแล้วค่าาาาาาาา กับ อบรมฟรีสำหรับนักศึกษาครั้งที่ 2...
คราวนี้เราเปิดอบรมเรื่อง Oracle Performance Tuning ที่นักศึกษาจะได้เรียนรู้และเข้าใจถึงหลักการและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยในการปรับแต่งประสิทธิภาพของ database ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษานำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพในอนาคต


เปิดรับสมัครผู้สนใจ ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2010 เวลา 12:00 น.
(ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดรับสมัครก่อนเวลาที่กำหนด หากที่นั่งเต็ม)

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถ Email แจ้งความจำนงที่จะเข้าร่วมอบรม พร้อมทั้งบอก ชื่อ-นามสกุล, เบอร์ติดต่อกลับ, สถานที่ศึกษา, แนบสำเนาบัตรนักศึกษา และเหตุผลที่อยากมาเข้าร่วมอบรมนี้ มาที่ oracle.in.th@gmail.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-634-1711 หรือ oracle.in.th@gmail.com

รายละเอียดของการอบรม
วันที่ทำการอบรม: วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 2 และ 3 ตุลาคม 2553
เวลา: 09:00 - 16:30 น.
สถานที่: อาคาร ปาโซ่ ทาวเวอร์ ชั้น 21 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10500
(ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ประมาณ 500 เมตร)


ดู อบรม Oracle Performance Tuning ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า


...โอกาสดี มันไม่ได้มีง่ายๆ รีบคว้าไว้ ก่อนที่จะสายไป


ข้อเขียนนี้ช่วยฉัน:  

Saturday, September 25, 2010

OUGTH - Oracle.in.th

สถานที่ จามจุรีสแควร์ชั้นสอง SE-ED Learning Center
ข้อเขียนนี้ช่วยฉัน:  

Thursday, September 16, 2010

Tableless design

วันนี้ พักเรื่อง oracle แล้วมาดู HTML กันดีกว่า


Tableless design เป็นการออกแบบ layout ของ HTML โดยไม่ใช้ table มาช่วยเลย โดยการที่ไม่ใช้ table ไม่ได้หมายความว่าจะตัด table ออกจาก html ไปเลย เพียงแต่ไม่ใช้ table ในการ design layout ส่วน table ก็ไปทำหน้าที่ในตอนแสดงข้อมูลออกมาในตารางเท่านั้น

ถ้าไม่ใช้ตารางจะใช้อะไรแทนหละ คำตอบตือใช้ <div> และ <span> ช่วยในการวาง Layout แทน โดย <div> ใช้ในออกแบบเกี่ยวกับ layout ในส่วนที่ไม่มีตัวอักษร เช่นการแบ่งโครงสร้างต่างๆของ web เช่นส่วนของเมนู ส่วนของ Banner ส่วนของ content ส่วนของ footer เป็นต้น ส่วน <span> จะเอามาใช้ในการจัดโครงสร้างของข้อความต่างๆ ไปดูเหตุผลพวกนี้ที่
http://www.divland.com/blog/2007/03/23/div-or-span/

แล้วเราจะออกแบบยังไง เราก็ออกแบบโดยมองว่า 1 <div> แทนโครงสร้างในส่วนหนึ่ง อย่างเช่น
<div id="banner">Banner</div>
อาจจะยังไม่เห็นภาพรวมของมันเราลองดูกันเต็มๆว่าถ้าใช้
<div>เต็มๆแล้วจะเป็นยังไง
<body>
<div id="page">
<div id="banner">Banner</div>
<div id="nav">Navigator</div>
<div id="content">
<div id="col1">Column1</div>
<div id="col2">Column2</div>
</div>
<div id="footer">Footer</div>
</div>
</body>
โครงสร้างที่เราคาดหวังว่าจะได้ มันจะเป็นเหมือนรูปด้านล่าง









แต่รูปด้านบนคือสิ่งที่เราคาดหวังแต่พอ run จริงๆจะได้ผลแบบนี้


ซึ่งไม่ใช่อย่างที่หวังอยากจะเป็นเลย เพราะอย่างที่เราบอกตอนแรกว่า <div> ใช้แค่วาง Layout เท่านั้น แต่การจัดการแสดงผลเราต้องใช้ css ช่วยในการให้มันแสดงผลออกมาให้เป็นไปตามสิ่งที่เราหวัง โดยลองใส่ css ลงไปดังนี้
<style type="text/css"> body{ background-color: #4D87C7; }

#page{
background-color: white;
margin: 0 auto;
width: 1000px;
padding:10px;
}

#banner{
padding: 35px 0px 0px 30px; background-repeat: repeat;
color: #999999;
height: 65px; font: bold 20px/20px Verdana, Geneva, Arial, Helvetica, sans-serif;
}

#nav{
padding: 10px;
background-color:#FFAA55;
}
#content{}

#col1{
position: absolute;
float: left;
width: 225px;
padding: 10px;
background-color: #E1EFF7;
}

#col2{
margin-left: 245px;
width: 735px;
padding: 10px;
background-color: #AAAAFF;
}

#footer{
color: white;
padding: 10px;
text-align: center;
background-color: #464A4B;
}  </style>
เราก็จะได้สิ่งที่เราต้องการอย่างสุขสมอุราดังรูปด้านล่าง


สิ่งสำคัญการออกแบบ layout แบบ tableless นี้ก็คือ css นั่นเอง ในตอนแรกถึงแม้ว่ามันจะดูยุ่งยากวุ่นวาย แต่จะสังเกตุว่าค่าการตั้งค่าต่างๆของการแสดง layout นั้นอยู่ใน css หมดเลยทำให้มันดีตรงที่ในหน้า html เรา code จะไม่รกเลย ทำให้เราจัดการกับข้อมูลในการนำเสนอออกมาเท่านั้น แต่วันไหนถ้าหากจะเปลี่ยน font เปลี่ยน layout เราก็ไม่ต้องไปยุ่งกับ HTML เลยเพราะเรา config ลงใน css หมด นอกจากจะทำให้เราจัดการกับ HTML ได้ง่ายขึ้นแล้วยังทำให้ HTML โหลดเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย

อาจจะดูยุ่งยากไปหน่อยในตอนเริ่มศึกษาแต่ถ้าเราเข้าใจหลักการหรือโครงสร้างทุกอย่างแล้วเราก็ไม่จำเป็นที่ต้องมาออกใหม่ทุกครั้งอย่างนี้ก็ได้เพราะว่ามันมี template ให้เรามาใช้ได้เลยไม่ต้องออกแบบใหม่ เพียงแต่เอามาแก้ไขในส่วนของ css เท่านั้นเพื่อให้มันเป็นไปตามลักษณะ รูปแบบที่เราต้องการ ซึ่ง css template พวกนี้เราจะเรียกว่า css framework ซึ่งมีที่ดังๆอยู่ที่ผมรู้จักนะ (อาจจะเยอะกว่านั้น) สองตัวคือ blueprintcss และ elasticss

สนใจตัวไหนลองไปศึกษาดูครับ เอาละไม่มีอะไรจะโม้แล้วขอจบลงเพียงแต่เท่านี้ ซึ่งสิ่งที่ผมได้อธิบายมานั้นเป็นการสรุปคร่าวๆ ลองไปศึกษาเพิ่มเติมที่ http://www.divland.com/blog/category/begining-css เลยครับ
ข้อเขียนนี้ช่วยฉัน: